วิธีการเลือกซื้อหม้อหุงข้าว

3207
หม้อหุงข้าว

“ หม้อหุงข้าว ” เป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน เนื่องจากคนไทยมีวัฒนธรรมรับประทานข้าวสวยหรือข้าวเหนียวเป็นอาหารหลักทำให้ หม้อหุงข้าว เป็นวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ใช้ความร้อนจากไฟฟ้าทำให้ข้าวสุกโดยอัตโนมัติ และสามารถรักษาอุณหภูมิของข้าวไว้ได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันหม้อหุงข้าวเป็นของใช้จำเป็นที่ต้องมีกันทุกบ้าน เพราะการใช้งานที่ง่ายและสะดวกกว่าการหุงข้าวด้วยเตาถ่านแบบสมัยก่อน โดยไม่ต้องเฝ้าข้าวเพียงแค่เสียบปลั๊ก กดสวิตซ์แล้วรอข้าวสุกซึ่งปัจจุบัน หม้อหุงข้าว มีหลายแบบให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น ดังนี้

1. จำนวนสมาชิกภายในบ้าน ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่าภายในบ้านหรือครอบครัวของเราอยู่ด้วยกันกี่คน ถ้าหากเราอยู่ด้วยกัน 2 คน เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้หม้อหุงข้าวที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากหม้อหุงข้าวขนาดใหญ่จะใช้ปริมาณกระแสไฟฟ้ามากและมีราคาที่สูงอีกด้วย แต่ถ้าเราเลือกหม้อหุงข้าวที่เล็กเกินไปไม่เหมาะสมกับสมาชิกภายในบ้าน เราอาจต้องหุงข้าว จำนวน 2 รอบ ซึ่งทำให้เปลืองค่าไฟฟ้ามากขึ้นอีก ดังนั้น เราควรเลือกขนาดของหม้อหุงข้าวให้เหมาะสมกันจำนวนสมาชิกภายในบ้าน

2. การเลือกชนิดของหม้อหุงข้าว ควรเลือกหม้อหุงข้าวที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ด้านความปลอดภัยควบคุมอยู่ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้

2.1 หม้อหุงข้าวแบบธรรมดา เป็นหม้อหุงข้าวที่หุงข้าวได้อย่างเดียว โดยราคาจะอยู่ที่หลักร้อยบาทเท่านั้น ลักษณะโดยทั่วไป คือ หม้อหุงข้าวมีฝาเป็นเหล็กที่สามารถยกแยกออกจากกันได้ แต่ไม่สามารถอุ่นข้าวให้ร้อนได้

ข้อดีของหม้อหุงข้าวชนิดนี้ คือ สามารถหุงข้าวให้สุกได้เร็วมาก ประมาณ 10-20 นาที

ข้อเสียของหม้อหุงข้าวชนิดนี้ คือ ไม่สามารถอุ่นข้าวให้ร้อนได้ตลอดเวลา

2.2 หม้อหุงข้าวอัตโนมัติพร้อมอุ่น เป็นหม้อหุงข้าวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถหุงข้าวและอุ่นข้าวให้ร้อนได้ตลอดเวลาในเครื่องเดียวกัน พร้อมทั้งรูปแบบทันสมัยขึ้นมาเล็กน้อย โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 500 บาทขึ้นไป หม้อชนิดนี้สามารถหุงข้าวให้สุกได้ด้วยเวลาประมาณ 25 นาที

2.3 หม้อหุงข้าวแบบดิจิตอล เป็นหม้อหุงข้าวที่ออกแบบให้มีความสวยงามเข้ากับยุคสมัยนี้ มีระบบการตัดไฟอัตโนมัติควบคุมความร้อนด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้มีราคาที่สูงตามคุณภาพ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,500 บาทขึ้นไป ซึ่งจะทำให้การหุงข้าวมีรสชาติของข้าวมากขึ้น และอร่อยขึ้นกว่าหม้อหุงข้าวชนิดอื่น เนื่องจากข้าวจะมีลักษณะนุ่มละมุนลิ้นกว่า และหอมกว่า เป็นต้น หม้อหุงข้าวชนิดนี้สามารถทำได้ทั้งข้าวต้ม ข้าวเหนียว พร้อมทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายกว่าชนิดอื่น เช่น การตั้งโปรแกรมการหุงข้าวด่วน ซึ่งจะทำให้ข้าวสุกได้ภายใน 15 นาที

3. ปริมาณกำลังไฟของหม้อหุงข้าว เนื่องจากหม้อหุงข้าวเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้บ่อยหรือทุกวัน ดังนั้น อัตราการใช้ไฟของหม้อหุงข้าวเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจ โดยจะทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้หลายร้อยบาทกันเลยทีเดียว เพียงแค่เราเลือกหม้อหุงข้างชนิดที่ประหยัดไฟฟ้า โดยดูจากรายละเอียดของหม้อหุงข้าวแต่ละตัวว่ามีอัตราการใช้ไฟฟ้าเท่าไหร่ในการหุงข้าว

4. การรับประกันสินค้า ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการประกันสินค้าหรือไม่ ถ้ามีต้องดูว่าสามารถประกันสินค้าที่เราจะซื้อที่ 1 ปีขึ้นไป และใบรับประกันอย่าทำให้ฉีกขาด เนื่องจากถ้าสินค้าเกิดการขัดข้องสิทธิ์ที่ได้รับจะใช้ไม่ได้ Gurude.co