ปัจจุบัน บ้านชั้นเดียวโมเดิร์น ได้รับความนิยมในเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นแนววัยรุ่นที่ทันสมัยที่ออกแบบมาแต่ละแบบไม่ซ้ำกันและเป็นแบบบ้านที่เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบันมองแล้วดูหรูหราเข้าตาของใครหลายคนที่ได้พบได้เห็นแบบ บ้านชั้นเดียวโมเดิร์น นั้นจะเน้นไปที่ครอบครัวขนาดเล็กไปจนถึงครอบครัวขนาดกลางเพราะเป็นบ้านที่มีขนาดพื้นที่หรือขนาดบ้านที่ไม่ใหญ่จนเกินไปทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซ่อมแซมบ้านหรือที่แม่บ้านจะชอบ บ้านชั้นเดียวโมเดิร์น มากที่สุดเลยคงหนีไม่พ้นเรื่องการทำความสะอาดที่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าบ้านสองชั้นเนื่องจากไม่ต้องขึ้นลงบันไดเพื่อที่จะทำความสะอาดในห้องต่างเหมือนบ้านสองชั้นนั้นเอง
ในวันนี้เราจะมาแนะนำการตกแต่งบ้านชั้นเดียวโมเดิร์นที่นิยมกัน 3 แบบ 3 สไตล์ ดังนี้
1. สไตล์วินเทจ สไตล์การตกแต่งบ้านแบบย้อนยุคและมีการดีไซน์พิถีพิถันในทุกรายละเอียด มักใช้ลวดลายที่ดูพลิ้วไหว อ่อนช้อย อย่างเช่น ลายดอกไม้ สำหรับสีที่นำมาใช้กับสไตล์วินเทจมักจะเป็นสีอ่อน ๆ อย่างสีขาว ครีม แดงอ่อน เหลืองอ่อน และม่วงอ่อน อีกทั้งรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์จะดูคล้ายกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจจะทำให้ บ้านชั้นเดียวโมเดิร์นของคุณมีความหรูหราดูแล้วสะบายตาและมีความเรียบหรูผสมผสานเข้าไปอีกที 2.สไตล์ลอฟท์ สไตล์การตกแต่งบ้านที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้ง 2 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ หลายบริษัทต้องปิดตัว และส่งผลให้เกิดโกดังร้างจำนวนมาก ซึ่งต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นที่พักอาศัย ก่อนจะถูกหยิบยกมาเป็นแรงบันดาลใจของการออกแบบบ้านในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นห้องเพดานที่มีการออกแบบให้มีความสูง การเปิดช่องประตู-หน้าต่างขนาดใหญ่ โชว์งานระบบต่าง ๆ ภายในบ้านหรืออาคาร การเปลือยผิววัสดุแบบไม่มีการตกแต่ง เน้นของตกแต่งที่ทำจากอิฐ เหล็ก ปูน และไม้ บ้านแบบนี้จะเป็นบ้านที่สามารถทำการตกแต่งยิบจับหรือใช้ของตกกแต่งได้ง่ายเนื่องจากสีบ้านที่เป็นสไตล์ลอฟท์จะสามารถทำให้ของตกแต่งบ้านของคุณดูเด่นชัดและมีมิติมากขึ้น
3.แนวธรรมชาติ ลืมรูปแบบมาตรฐานของการวางแปลนแบบเดิม ๆ ไปบ้างก็ดีสำหรับในแนวธรรมชาติจะเน้นชิ้นส่วนหรือของตกแต่งที่มีสวนผสมของธรรมชาติให้มากกว่าแบบบ้านแบบอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ต้องมีโซฟาขนาดใหญ่ขนาบด้วยอาร์มแชร์ที่เป็นไม้ โต๊ะข้าง และโต๊ะกลาง สำหรับ สไตล์โมเดิร์น อาจมีแค่โซฟาขนาดใหญ่ อาร์มแชร์ หรือเก้าอี้แบบมีที่วางเท้าสักตัว โต๊ะกลางขนาดใหญ่ เสริมด้วยพรมผืนสวยที่เป็นลวดลายธรรมชาติ ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่และทำให้มีทางสัญจรที่กว้างและสะดวกขึ้น นอกจากนี้ควรออกแบบผนังด้านใดด้านหนึ่งให้เปิดรับแสงธรรมชาติบ้างก็จะดีเพื่อให้เกิดมิติในการมอง และทำให้พื้นที่สว่างขึ้น หรือจะเปิดเชื่อมต่อกับส่วนอื่น ๆ ก็ได้ และกั้นพื้นที่ได้หากต้องการความเป็นสัดส่วน