มะเขือเทศ จัดเป็นผลไม้ที่คนทั่วโลกนิยมรับประทานมากที่สุดนอกจากผลมีสีสันที่น่ารับประทานแล้ว ผลยังอุดมด้วยสารไลโคปีน (Lycopene) สารสีแดงที่มีสรรพคุณเป็นแอนติออกซิแดนท์ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็ง อีกทั้งยังมีวิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก มะเขือเทศยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย เช่น ช่วยบำรุงลำไส้และไต ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ขับปัสสาวะ รักษาความดัน เป็นต้น นอกจากรับประทานแล้ว หากนำน้ำมะเขือเทศสดๆ มาทาใบหน้าก่อนนอน ยังสามารถช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใส ลดความหมองคล้ำจากรอยแดดได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่ามะเขือเทศมีประโยชน์หลายอย่าง ดังนั้น
เรามาดูวิธีปลูก มะเขือเทศไว้ภายในบ้านกันดีกว่า
1. ทำการเลือกพันธุ์ของมะเขือเทศที่เรารับประทานผลสดก่อนปลูก เนื่องจากมีหลากหลายพันธุ์ทั้งขนาดผลเล็กและผลใหญ่ เช่น มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศผลใหญ่ มะเขือเทศเชอร์รี่ มะเขือเทศราชินี ฯลฯ
2. การจะเลือกปลูกมะเขือเทศพันธุ์ได้นั้นขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ปลูก โดยวิธีปลูกก็สามารถทำได้ไม่ยากซึ่งการปลูกคล้ายกับผักสวนครัวทั่วไป การควรปลูกบริเวณพื้นที่ที่มีแสงแดดตลอดวัน แต่ต้องคำนึงถึงเรื่องการเตรียมดินปลูกมาก เนื่องจาก มะเขือเทศ ชอบดินที่มีการระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง โดยเมื่อเราเริ่มต้นด้วยดินดีทำให้การปลูกไปในทิศทางที่ดี โอกาสที่ต้นมะเขือเทศจะเจริญเติบโตมีผลให้เราได้เก็บกินก็จะสำเร็จสูงเช่นกัน
3. มะเขือเทศ สามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยการเพาะเมล็ด ให้นำเมล็ดจากผลสุกเต็มที่มาล้างเมือกลื่นๆออก ผึ่งในที่ร่มให้แห้งแล้วหว่านเมล็ดลงกระบะที่เตรียมไว้ รอประมาณ 10 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก และแตกใบ ส่วนอีกวิธีใช้เมล็ดพันธุ์ที่บรรจุซองจำหน่าย โดยลองเพาะในกล่องพลาสติกโดยโรยเมล็ดบางๆ ลงบนกระดาษทิชชูรดน้ำให้ชุ่มทิ้งไว้ประมาณ 3-4 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก และมีใบเลี้ยงเล็กๆ ทำการย้ายไปลงวัสดุเพื่อปลูกต่อได้เหมือนกัน
4. เมื่อเป็นต้นกล้าแล้ว อายุประมาณ 15 วัน จะเริ่มมีใบจริงออกมา และทำการย้ายไปปลูกในพื้นที่ที่ได้เตรียมไว้ ถ้าปลูกลงแปลงควรใช้ระยะระหว่างต้นและแถวประมาณ 50 x 70 เซนติเมตร สำหรับมะเขือเทศแบบไม่ใช้ค้าง ส่วนพันธุ์ที่ใช้ค้างใช้ระยะประมาณ 30 x 70 เซนติเมตร โดยทำค้างเพื่อให้เลื้อยเมื่ออายุประมาณ 8-10 วัน การทำค้างอาจทำค้างแบบใช้ไม้ปักผูกเป็นแบบกระโจม หรือใช้เชือกผูกต้นมะเขือเทศไว้ที่ราวลวดก็ได้ สำหรับการปลูกมะเขือเทศภายในบ้านนิยมปลูกแบบขึ้นค้าง แล้วตัดแต่งกิ่งแขนงออกให้เหลือเพียง 1-2 กิ่งต่อต้น เพื่อให้ได้มะเขือเทศที่ผลใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยลดปัญหาโรคแมลงที่อาจซ่อนตัวตามกิ่งใบได้ด้วย
5. การดูแลต้นมะเขือเทศที่เราปลูกให้เติบโตแข็งแรงและออกดอกผลให้อย่างสม่ำเสมอ คือ การให้น้ำ ต้องให้น้ำตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนถึงผลเริ่มแก่อย่างสม่ำเสมอ เมื่อผลมะเขือเทศเริ่มเปลี่ยนสีให้ลดการให้น้ำลงเพื่อป้องกันผลแตก
6. การใส่ปุ๋ย เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน เราแนะนำให้ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยมูลไส้เดือนทุก 20 วัน เมื่อต้นเริ่มผลิดอกออกผลก็เริ่มให้ปุ๋ยบำรุงผล หรือถ้าสามารถทำปุ๋ยหมักจากเศษผักผลไม้หรืออินทรียวัตถุที่หมักเองได้จะทำให้ช่วยประหยัดค่าปุ๋ยอีกทางด้วย
7. การเก็บผลผลิตของต้นมะเขือเทศมีให้เก็บผลเมื่อเริ่มสุกแดงประมาณหนึ่งในสาม แล้วเก็บในตู้เย็น ก็จะสามารถเก็บได้นานกว่าเก็บผลสุกสีแดงทั้งผล Gurude.co